สยบปัญหา Printer เสียด้วย 9 วิธีดูแลปริ้นเตอร์ให้ใช้งานได้นานขึ้น
ปริ้นเตอร์ เป็นอุปกรณ์สำนักงานที่จำเป็น เรียกว่าแทบทุกออฟฟิศจะขาดไปไม่ได้เลย ซึ่งปริ้นเตอร์นั้นถือเป็นเครื่องพิมพ์สารพัดประโยชน์ จะปริ้นท์อะไรก็สั่งได้ดั่งใจ แต่ถึงแม้จะใช้งานง่าย แต่วิธีการดูแลรักษาบอกเลยว่ายากพอสมควร แถมปัญหา Printer เสียบ่อยก็มีให้พบเห็นมาก ใครที่ใช้ไม่เป็น มากดสั่งงานหรือใส่กระดาษไม่ถูกช่อง รวมไปถึงการนำหมึกมาเติมผิด ก็ส่งผลให้เครื่องเกิดความเสียหายจนต้องส่งซ่อมอยู่บ่อยครั้งได้ ดังนั้น บทความนี้จึงขอนำ 9 วิธีช่วยยืดอายุการใช้งานของปริ้นเตอร์มาฝาก เพื่อป้องกันปัญหา Printer เสียบ่อยดังนี้
1. วางเครื่องให้ถูกที่
หากไม่อยากเจอปัญหา Printer เสียบ่อย แนะนำให้เริ่มต้นด้วยตำแหน่งในการวางปริ้นเตอร์ ที่ถือเป็นเรื่องสำคัญแต่หลายคนกลับมองข้าม และเลือกวางในจุดที่สะดวกต่อการใช้งาน เช่น การวางบน CPU, วางในที่ฝุ่นเยอะ หรือวางในที่ร้อนเกินไป เป็นต้น ซึ่งการวางในตำแหน่งเหล่านี้ จะส่งผลให้พรินตอร์เสื่อมสภาพได้เร็วมากขึ้น อันเป็นผลมาจากการมีฝุ่นเข้ามาเยอะเกินไป หรืออุณหภูมิที่ร้อนจัดก็จะทำให้การปริ้นท์และหมึกที่พิมพ์สีออกมาเกิดปัญหาได้นั่นเอง ดังนั้นเลือกวางในจุดที่อากาศถ่ายเท และไม่มีฝุ่นจะดีที่สุด
2. อย่ากระชากกระดาษที่ติดในเครื่อง
สาเหตุหลักที่เครื่องปริ้นเตอร์เสียบ่อยจนไม่สามารถปริ้นท์กระดาษออกมาได้ นั่นเป็นเพราะมีกระดาษติดอยู่ภายในเครื่อง ผู้ใช้งานต้องมองในช่องที่เลื่อนกระดาษจากนั้นค่อยๆ ดึงช่องออกมา ไม่ควรกระชากแรงจนเกินไป เพราะจะทำให้ลูกกลิ้งที่คอยเลื่อนกระดาษเกิดความเสียหายหรือบางกรณีที่กระดาษมีชิ้นเล็กๆ แล้วเข้าไปติด ยากเกินที่จะเอาออกให้ลองทำตามวิธีแก้ไขจากสมุดคู่มือ จะช่วยให้สามารถหยิบออกและแก้ปัญหาได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ควรรุนแรงกับปริ้นเตอร์เด็ดขาด เพราะเครื่องอาจพังได้
3. อย่าไม่ได้พิมพ์นานเกินไป
ในช่วงแรกที่ซื้อปริ้นเตอร์มา หลายคนก็ใช้งานอย่างเต็มที่ แต่หากช่วงไหนไม่ได้ใช้งานก็จะปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ซึ่งจริงๆ แล้วควรจะต้องมีการใช้งานปริ้นเตอร์บ้าง เช่น สั่งพิมพ์งาน, ปริ้นท์สี เพื่อให้หมึกและกลไกข้างในเกิดการทำงาน หากทิ้งไว้ 2-3 เดือนอาจทำให้หัวจ่ายหมึกเกิดการอุดตัน ส่งผลให้เครื่องชำรุดได้ ดังนั้น ควรพิมพ์กระดาษอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อยืดอายุการใช้งานของปริ้นเตอร์ให้ยาวนานขึ้น
4. เช็กหัวพิมพ์ ตามระยะเวลาการใช้งาน
หากสั่งพิมพ์กระดาษออกมาแล้วเส้นขาด, ตัวอักษรออกมาไม่ครบหรือสีมีความเพี้ยน นั่นแปลว่าหัวพิมพ์กำลังมีปัญหา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัญหาปัญหา Printer เสีย แต่สามารถเช็กหัวพิมพ์จากระบบซอฟต์แวร์ในตัวปริ้นเตอร์เพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหาได้ โดยสั่งการไปที่ Clean หัวพิมพ์จะช่วยทำให้การพิมพ์กลับมาเป็นปกติ แต่ก็ถือเป็นขั้นตอนที่ทำให้สิ้นเปลืองหมึกพิมพ์อย่างมากเช่นกัน ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ในเวลาที่เหมาะสมจะดีที่สุด
5. เลือกใช้กระดาษให้ถูกประเภท
หลายคนทราบดีว่าการพิมพ์มีกระดาษให้เลือกใช้หลายประเภท และเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยถนอมการใช้งานของปริ้นเตอร์ได้ หากใช้กระดาษที่ไม่มีคุณภาพหรือผิดประเภท อาจทำให้กระดาษเข้าไปติดในตัวเครื่องจนทำให้การทำงานของปริ้นเตอร์เกิดความผิดปกติและอาจเสียหายถึงขั้นทำลายจนทำให้ Printer เสียได้ แม้หลายคนจะมองเป็นปัญหาเล็กๆ แต่จุดนี้หากไม่แก้ไขก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ตามมาในภายหลังได้
6. เช็กลวดเย็บกระดาษ
ลวดเย็บกระดาษ แม้ขนาดจิ๋ว แต่กลับสามารถสร้างปัญหาใหญ่จนถึงขั้นทำให้ปริ้นเตอร์เสียง่าย หากเลือกใช้กระดาษรีไซเคิล แต่ไม่เช็กให้ดีก่อนว่ามีลวดเย็บกระดาษติดมาหรือไม่ เมื่อนำกระดาษไปใส่ในเครื่องพิมพ์ก็อาจทำให้ลวดเย็บกระดาษเข้าไปติดข้างในตัวเครื่อง ส่งผลให้การทำงานเกิดความขัดข้อง หากนำออกมาได้อาจไม่ร้ายแรง แต่บางกรณีก็ทำให้กลไกด้านในเกิดความเสียหายอย่างหนัก ทางที่ดีอย่าลืมแกะลวดเย็บกระดาษก่อนการสั่งพิมพ์ทุกครั้ง
7. ปิดเครื่องตามขั้นตอน
การใช้งานของปริ้นเตอร์ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีปุ่มกดสั่งการใช้งานครบ โดยผู้ใช้งานสามารถสั่งเปิด-ปิด สั่งพิมพ์ หรือแก้ปัญหาตัวเครื่องได้ทันที แต่บางคนเมื่อใช้อุปกรณ์เสร็จ กลับเลือกปิดปริ้นเตอร์ด้วยการถอดปลั๊กออกโดยตรง นั่นอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของปริ้นเตอร์ และยังเป็นการลดทอนอายุการใช้งานของเครื่องให้สั้นลงอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้ Printer เสียง่าย
8. ใช้หมึกแท้ คุณภาพเยี่ยม
แม้จะซื้อปริ้นเตอร์จากแบรนด์ที่ดีมีคุณภาพ แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับหมึกพิมพ์งานอย่างเด็ดขาด เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และช่วยให้ได้งานปริ้นท์คุณภาพดี ถึงแม้ว่าหมึกปลอมจะมีราคาที่ถูกและพิมพ์ออกมาได้เหมือนกัน แต่ของปลอมจะทำให้อายุการใช้งานของหัวพิมพ์และปริ้นเตอร์สั้นลง แถมหมึกปลอมยังไม่มีการรับประกันคุณภาพ ทำให้ต้องเสียเงินซื้อใหม่เป็นประจำ ดังนั้นลงทุนซื้อหมึกคุณภาพดีครั้งเดียวจบจะดีกว่า
9. เตรียมหมึกสำรองไว้เสมอ
หลายคนสั่งพิมพ์งานจนเพลิน ลืมเช็กว่าหมึกใกล้หมดหรือยัง เพราะหากปล่อยให้หมึกหมดก็ย่อมทำให้ไม่มีหมึกไปเลี้ยงหัวพิมพ์และส่งผลให้หัวพิมพ์ไม่สามารถดึงหมึกออกมาได้ แม้จะเติมเข้าไปในภายหลังก็ตาม ดังนั้น หากรู้ว่าหมึกใกล้จะหมดควรเติมหรือเตรียมหมึกสำรองเอาไว้ต่อเนื่องจะดีที่สุด รับรองว่าจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้นได้แน่นอน
สำหรับใครที่ Printer เสียบ่อยหรือกำลังมองหาวิธียืดอายุการใช้งานปริ้นเตอร์ สามารถนำวิธีดูแลทั้ง 9 ที่นำมาฝากไปปรับใช้กันได้ รับรองจะช่วยให้พิมพ์หมึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมใช้งานเครื่องปริ้นเตอร์ได้อย่างยาวนานแน่นอน แต่หากคุณคือบริษัท ต้องการการจัดการ บริการดูแลเครื่องปริ้นเตอร์แบบมืออาชีพ ช่วยเติมหมึก บริหารจัดการอาการเสีย ติดตั้ง ดูแลการใช้ในระยะยาว สามารถติดต่อเราได้ บริษัท วันบีลีฟ จำกัด ยินดีให้บริการงานด้าน IT แบบครบวงจร